Baidu เปิดตัว AI รุ่นใหม่ ราคาถูกลง

Baidu ได้เปิดตัวโมเดล AI ใหม่สองรุ่นสู่ตลาด โดยมีราคาเพียง 25% ของ DeepSeek การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้ได้รับการเน้นย้ำโดย Robin Li ซีอีโอของ Baidu ซึ่งยืนยันว่าคุณค่าที่แท้จริงของ AI ไม่ได้อยู่ที่โมเดลหรือชิป แต่อยู่ที่การประยุกต์ใช้จริง

เปิดตัวโมเดลใหม่: แนวทางที่คุ้มค่า

โมเดลที่เปิดตัวใหม่ ได้แก่ ERNIE Speed และ ERNIE Lite ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้โซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจและนักพัฒนาที่ต้องการรวม AI เข้ากับการดำเนินงานของตน โมเดล ERNIE Speed มีราคาอยู่ที่ 0.8 หยวนต่อล้านโทเค็นสำหรับอินพุต และ 3.2 หยวนสำหรับเอาต์พุต ซึ่งแสดงถึงการลดต้นทุนอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน โมเดล ERNIE Lite ยังช่วยประหยัดต้นทุนได้มากยิ่งขึ้น โดยมีราคาต่ำถึง 0.0008 หยวนต่อ 1,000 โทเค็น กลยุทธ์การกำหนดราคาที่แข็งกร้าวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยี AI เป็นประชาธิปไตยและเร่งการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ

เปรียบเทียบต้นทุน: Baidu vs. DeepSeek

ความแตกต่างของราคาระหว่างโมเดลใหม่ของ Baidu และโมเดลที่นำเสนอโดย DeepSeek เป็นปัจจัยสำคัญในกลยุทธ์ของ Baidu ตัวอย่างเช่น โมเดล ERNIE Speed มีราคาอยู่ที่ 25% ของ DeepSeek-R1 ทำให้เป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับธุรกิจที่อาจมีราคาสูงเกินไปในตลาด AI ก่อนหน้านี้ ข้อได้เปรียบด้านต้นทุนนี้ได้รับการขยายเพิ่มเติมจากข้อเท็จจริงที่ว่าโมเดลของ Baidu ได้รับการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูง โดยต้องการพลังงานและการประมวลผลน้อยลงในการทำงาน

ประสิทธิภาพและความสามารถ

แม้ว่าราคาจะเป็นจุดขายที่สำคัญ แต่ Baidu ยังได้เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพและความสามารถของโมเดลใหม่ของตนด้วย ตัวอย่างเช่น โมเดล ERNIE Speed ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การอนุมานความเร็วสูง ทำให้เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ เช่น แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน ในทางกลับกัน โมเดล ERNIE Lite ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์มือถือและสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบ Edge ทำให้ธุรกิจสามารถปรับใช้แอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย

ความสามารถแบบ Multi-Modal

นอกเหนือจากความเร็วและประสิทธิภาพแล้ว โมเดลใหม่ของ Baidu ยังมีความสามารถแบบ Multi-Modal ซึ่งหมายความว่าสามารถประมวลผลและทำความเข้าใจข้อมูลประเภทต่างๆ ได้ รวมถึงข้อความ รูปภาพ และเสียง ทำให้เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่หลากหลาย เช่น การจดจำภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และการจดจำเสียง Baidu ยังได้รวมโมเดลของตนเข้ากับแพลตฟอร์ม AI ที่มีอยู่ ทำให้ผู้พัฒนามีชุดเครื่องมือและทรัพยากรที่ครอบคลุมสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ปรัชญา Application-Centric ของ Baidu

การเน้นย้ำของ Robin Li ถึงความสำคัญของแอปพลิเคชัน AI เป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์โดยรวมของ Baidu Li เชื่อว่าคุณค่าที่แท้จริงของ AI อยู่ที่ความสามารถในการแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ด้วยเหตุนี้ Baidu จึงลงทุนอย่างหนักในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการดูแลสุขภาพ การศึกษา และการขนส่ง

การแก้ไข ‘จุดเจ็บ’ ของโมเดลที่มีอยู่

Li ได้วิพากษ์วิจารณ์สถานะปัจจุบันของตลาด AI โดยแย้งว่าโมเดลที่มีอยู่จำนวนมากมีราคาแพงเกินไป ช้าเกินไป และมีความสามารถที่จำกัดเกินไป เขาได้กล่าวถึง DeepSeek และบริษัทอื่นๆ โดยเฉพาะสำหรับ ‘จุดเจ็บ’ ซึ่งรวมถึงการมุ่งเน้นไปที่แอปพลิเคชัน Single-Modal อัตราการหลอนสูง ความเร็วในการประมวลผลช้า และต้นทุนสูง โมเดลใหม่ของ Baidu ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขจุดเจ็บเหล่านี้และมอบโซลูชันที่ใช้งานได้จริงและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับธุรกิจและนักพัฒนา

ความสำคัญของการลดต้นทุน

Li เชื่อว่าการลดต้นทุนของ AI เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนการนำไปใช้และปลดล็อกศักยภาพสูงสุด ด้วยการทำให้ AI มีราคาไม่แพง Baidu หวังที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถรวม AI เข้ากับการดำเนินงานและพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งจะนำไปสู่ระบบนิเวศที่กว้างขึ้นของผลิตภัณฑ์และบริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและธุรกิจ

การเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน AI ที่ ‘มีประโยชน์สุดยอด น่าสนใจสุดยอด’

Li มองเห็นอนาคตที่ AI ถูกรวมเข้ากับทุกแง่มุมของชีวิตของเราอย่างราบรื่น ทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสนุกสนานยิ่งขึ้น เขาเชื่อว่าโมเดลใหม่ของ Baidu เป็นก้าวสำคัญในการทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง โดยเป็นรากฐานสำหรับแอปพลิเคชัน AI ที่ ‘มีประโยชน์สุดยอด น่าสนใจสุดยอด’ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตและการทำงานของเราได้

การสร้างระบบนิเวศนักพัฒนาที่สมบูรณ์

นอกเหนือจากการเปิดตัวโมเดลใหม่แล้ว Baidu ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศนักพัฒนาที่สมบูรณ์เพื่อสนับสนุนการนำ AI ไปใช้ ซึ่งรวมถึงการให้ผู้พัฒนาเข้าถึงเครื่องมือ ทรัพยากร และบริการสนับสนุนที่หลากหลาย รวมถึงการส่งเสริมชุมชนที่มีชีวิตชีวาของนักพัฒนาและผู้ที่ชื่นชอบ AI

การแนะนำแอปพลิเคชันและเครื่องมือ AI ใหม่

ในการประชุมล่าสุด Baidu ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันและเครื่องมือ AI ใหม่จำนวนมาก รวมถึงมนุษย์ดิจิทัลที่น่าเชื่อถืออย่างมาก แอปการทำงานร่วมกันแบบ Multi-Agent ทั่วไปที่เรียกว่า ‘Xinxiang’ และระบบปฏิบัติการเนื้อหาที่เรียกว่า ‘Cangzhou OS’ ข้อเสนอใหม่เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสร้างและปรับใช้แอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

การยอมรับ MCP (Model Context Protocol)

Baidu ยังได้ประกาศว่าจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถยอมรับ MCP (Model Context Protocol) ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการสร้างแอปพลิเคชัน AI MCP ช่วยให้นักพัฒนาสร้างส่วนประกอบ AI ที่เป็นโมดูลาร์และนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการสร้างและบำรุงรักษาระบบ AI ที่ซับซ้อน Baidu ได้เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ MCP จำนวนมาก รวมถึง MCP การทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซและการค้นหา MCP เป็นครั้งแรก เพื่อช่วยให้นักพัฒนาเริ่มต้นใช้งานเทคโนโลยีใหม่นี้

การผสมผสานเชิงกลยุทธ์: ประสิทธิภาพและความคุ้มค่า

กลยุทธ์ของ Baidu ในการนำเสนอ ‘ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ราคาที่ต่ำกว่า’ เป็นความพยายามที่ชัดเจนในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในพื้นที่โมเดล AI ด้วยการนำเสนอข้อเสนอที่มีคุณค่าที่น่าสนใจยิ่งกว่าคู่แข่ง Baidu หวังที่จะดึงดูดนักพัฒนาและธุรกิจมายังแพลตฟอร์มของตน และสร้างตัวเองให้เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชัน AI

การกำหนดเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดผ่านความคุ้มค่า

บริษัทตั้งเป้าที่จะคว้าส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้นโดยการนำเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับโมเดล AI ที่มีอยู่ กลยุทธ์นี้ดึงดูดใจธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพเป็นพิเศษ ซึ่งอาจไม่มีทรัพยากรในการลงทุนในโซลูชัน AI ที่มีราคาแพงกว่า

อนาคตของ AI: ราคาและแอปพลิเคชัน

Baidu เชื่อว่าอนาคตของ AI จะถูกขับเคลื่อนด้วยสองปัจจัยหลัก: ราคาและแอปพลิเคชัน เมื่อเทคโนโลยี AI กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น ราคาของโมเดล AI จะยังคงลดลง ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นสามารถเข้าถึงได้ ในขณะเดียวกัน จุดสนใจจะเปลี่ยนจากการพัฒนาโมเดล AIทั่วไปไปเป็นการสร้างแอปพลิเคชัน AI เฉพาะที่แก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง

การเปลี่ยนไปสู่ AI ที่ ‘เข้าถึงได้และราคาไม่แพง’

บริษัทมองเห็นอนาคตที่ AI ไม่ใช่เทคโนโลยี ‘ระดับไฮเอนด์’ อีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือที่แพร่หลายซึ่งทุกคนใช้ทุกที่ ซึ่งต้องทำให้ AI เข้าถึงได้และราคาไม่แพง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม Baidu จึงมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนของโมเดล AI และการสร้างระบบนิเวศนักพัฒนาที่สมบูรณ์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI

ปรัชญา ‘Application First’ ของ Li: จุดยืนที่ย้ำอีกครั้ง

Robin Li ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของแอปพลิเคชันในระบบนิเวศ AI อย่างสม่ำเสมอ เขาเชื่อว่าโมเดล AI และชิปมีค่าก็ต่อเมื่อสามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ปรัชญา ‘Application First’ นี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์โดยรวมของ Baidu และสะท้อนให้เห็นในการลงทุนของบริษัทในแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ

แอปพลิเคชัน AI ในฐานะผู้สร้างมูลค่าที่แท้จริง

Li เชื่อมั่นว่าแอปพลิเคชัน AI เป็นผู้สร้างมูลค่าที่แท้จริงในระบบนิเวศ AI หากไม่มีแอปพลิเคชัน โมเดล AI และชิปก็เป็นเพียงเครื่องมือที่ไม่มีจุดประสงค์ ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การสร้างและปรับใช้แอปพลิเคชัน AI Baidu หวังที่จะสร้างวงจรนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ ซึ่งแอปพลิเคชันใหม่ขับเคลื่อนความต้องการโมเดลและชิปที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้แอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น

รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่: การระเบิดของแอปพลิเคชัน

การผสมผสานระหว่างราคาที่ต่ำลงและการมุ่งเน้นไปที่แอปพลิเคชันคาดว่าจะนำไปสู่การระเบิดของการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เมื่อ AI เข้าถึงได้ง่ายและราคาไม่แพงมากขึ้น ธุรกิจจะสามารถรวม AI เข้ากับการดำเนินงานได้ง่ายขึ้น นำไปสู่ประสิทธิภาพ ผลผลิต และนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะขับเคลื่อนความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI สร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจและนักพัฒนา

เร่งการเปลี่ยนผ่านจาก AI ‘Elite’ ไปสู่ AI ‘Universal’

แนวโน้มนี้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ AI โดยเคลื่อนจากการเป็นสิทธิพิเศษของชนชั้นสูงไปสู่เครื่องมือที่พร้อมใช้งานสำหรับทุกคน ความสามารถในการจ่ายและการเข้าถึง AI เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพเพื่อประโยชน์ในวงกว้าง การมุ่งเน้นไปที่แอปพลิเคชันที่ใช้งานได้จริงจะกระตุ้นนวัตกรรมและนำไปสู่การพัฒนาและการปรับใช้โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในภาคส่วนต่างๆ ที่หลากหลาย ปฏิวัติวิธีการใช้ชีวิตและการทำงานของเรา